แด่เธอผู้สนิทนิทรา (เรื่องสั้น ส่งจารย์น้อยนะน้องๆ ) - แด่เธอผู้สนิทนิทรา (เรื่องสั้น ส่งจารย์น้อยนะน้องๆ ) นิยาย แด่เธอผู้สนิทนิทรา (เรื่องสั้น ส่งจารย์น้อยนะน้องๆ ) : Dek-D.com - Writer

    แด่เธอผู้สนิทนิทรา (เรื่องสั้น ส่งจารย์น้อยนะน้องๆ )

    ห้ามลอกนะคะ เอาไปเป็นไกด์ไลน์ ได้อย่างเดียวนะ ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    480

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    480

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ส.ค. 55 / 16:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    คำสั่ง : ให้นิสิตเขียนเรื่องสั้น 1 เรื่อง โดยมีความยาว 1 หน้ากระดาษ โดยให้มีคำต่อไปนี้  ช็อคโกแลต   

                   แมวศรีสวาท  ตะกร้าหวาย  ต้นกระดังงา  รถยนต์สีขาว

     

                                                                                                                     นายญัฐวุฒิ  สุขษาเกษ

                                                                                       51054019  วิศวกรรมศาสตร์
                                                                                    ร่วมด้วย
                                                                                       นางสาวเมธาพร  ศรีชาติ
                                                                                    52100103143   ครุศาสตร์ 
                                                                                          สาขาวิชาทัศนศิลป์(ศิลปกรรม)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

          +-  Diary   -+

      เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมอยู่ ม.6
      ขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่หน้าร้านมินิมาร์ทของโรงเรียน

      รถยนต์สีขาวคันโตวิ่งมาจอดที่หน้าร้านมินิมาร์ทที่พวกเรานั่งอยู่  สาวน้อยหน้าตาน่ารักในชุดนักเรียนที่เรียบร้อยก้าวลงมาจากรถเบนซ์คันนั้น และวันนั้นผมก็ได้รู้จักกับคำว่ารักแรกพบ
       

      อาจจะเป็นโชคดีหรืออาจจะเป็นพรหมลิขิตอันใดผมก็ไม่ทราบเพราะเธอกลายเป็นนักเรียนใหม่ของห้อง 6/1 เหมือนกับผม    แต่ว่าผมก็ไม่ได้เป็นแฟนเธออย่าที่ตั้งใจไว้ แต่กับกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอแทน ผมชอบเล่าความลับของผมให้เธอฟัง  ผมชอบที่เธอเป็นคนเงียบ ๆ คอยนิ่งฟังเวลาที่ผมเล่าโน่นนี่ แต่บางทีเธอก็จะเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟังบ้างเหมือนกัน เช่นว่า เธอบอกว่าเธอรักแมวศรีสวาทของเธอมากขนาดที่ว่ายอมเลิกไปเเล่นเรือใบกับครอบครัวเพราะว่าแมวเธอมันกลัวน้ำทั้งๆที่การนั่งดูวิวทะเลขณะที่เรือกำลังเเล่นเป็นสิ่งที่เธอโปรดปราณมากก็ตาม  และทุกครั้งที่คุยกันผมก็จะมีมุขตลกฮาๆมาทำให้เธอหัวเราะได้เสมอ   เราสามารถคุยกันได้ทุก ๆ เรื่อง แต่ผมก็ยังมีความลับที่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง...และผมก็ยังไม่เคยบอกเธอ

      ......วันนั้นผมเจอเธอนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆต้นกระดังงา   ดูเธอเสียใจมาก เธอแทบไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าหญิงสาวที่ผมแอบรักโดนหักอกมา   ผมได้แต่ปลอบเธอว่าใครบ้างหละจะไม่เคยอกหักผมเองยังเคยอกหักแต่ซักพักมันจะดีขึ้นเอง.....

       

      เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรื่อยมาจนถึง ม.6 เทอม 2
      เราสนิทกันมาก แม้ผมจะคิดเสมอว่า เราเป็นแค่เพื่อน
      แต่ลึก ๆ แล้ว...ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่

      ในคืนวันนั้นหลังจากเสร็จงานกีฬาสีของโรงเรียนเพื่อนๆนัดปาร์ตี้กัน
      เมื่องานเลิกทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมเลยถือโอกาสชวนเธอไปเดินเล่นกัน
      เพื่อที่ผมจะได้บอกว่าเธอว่าอยากจะขอคบเธอเป็นแฟน 

      อือ ... นั่นดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของผมทีเดียว แต่ที่สุดแล้วเราก็แค่นั่งดูดาวและ
      ผลัดกันเล่าแผนการชีวิตของกันและกัน...
              เธอจ้องตาผมขณะฟังเขาเล่าแผนการในชีวิตของผม  ผมบอกเธอว่า สักวันผมจะเป็นวิศวกรที่ยิ่งใหญ่  มีกิจการเป็นของตัวเอง ผมจะต้องร่ำรวยและประสบความสำเร็จในชีวิต  เมื่อทุกอย่างพร้อม  ผมก็จะแต่งงานวางหลักปักฐานกับใครสักคนที่ผมรัก.... 
      ....ผมหันหน้ามาหาเธอและยิ้มให้กับเธอ เธอยิ้มตอบ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรและคืนนั้นเธอก็นั่งคุดคู้อยู่ข้าง ๆ ผมจนเกือบเที่ยงคืน....

      คืนนั้นผมกลับบ้านพร้อมความรู้สึกอันปวดร้าว
      ด้วยเหตุที่ไม่ได้พูดออกไปดังใจปรารถนา
      ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หัวใจผมเจ็บปวด
      .....เวลาก็ล่วงเลยมาจนเราใกล้จะจบ ม.6  ผมอยากจะสารภาพรักให้เธอฟังใจจะขาด
      แต่ทุกครั้งจะต้องมีใครสักคน อยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ
      ....หลังจากผลสอบโควต้าเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยประกาศผล
      ผมสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์หลายมหาวิทยาลัย ส่วนเธอก็สอบติดคณะทันตแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เธอฝันไว้เช่นกัน   ผมยินดีกับอนาคตอันสดใสนั้น แต่ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้เช่นเดิม
      ....จนกระทั่งถึงวันปัจฉิมนิเทศที่เราจะต้องจากกันเพื่อเดินตามความฝันของแต่ละคน เธอกอดผมแล้วร้องไห้ ผมคิดว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมีเธออยู่เคียงข้าง

      คืนนั้นผมร้องไห้จนตาบวม และยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
      เมื่อนึกถึงว่า ที่สุดแล้ว ผมก็ยังไม่ได้เล่าความในใจให้เธอฟัง

       

      ......จนคืนนั้น  ก่อนที่เธอจะต้องเดินทางไปเรียนเราคุยโทรศัพท์กันจนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่เธอจะวางสายผมได้บอกกับเธอว่าผมสัญญาว่าพรุ่งนี้ผมจะไปส่งเธอขึ้นเครื่องบินอย่างแน่นอน และเธอก็บอกว่าเธอ

      มีบางอย่างเตรียมไว้ที่จะให้ผม......

       

      ......ผมตื่นสายมากเพราะเมื่อคืนนอนดึกมัวแต่คิดว่าจะต้องทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้เธอกำลังจะไปจากชีวิตผมแล้ว...ผมจะต้องบอกความในใจอย่างไรให้เธอรู้ว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน ......อีก 15 นาที เครื่องก็จะออกแล้วผมคงไปไม่ทันแน่ๆ  ผมจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาเธอ  เธอบอกว่าตอนนี้อยู่บนรถใกล้จะไปถึงแล้ว   ผมขอโทษเธอที่ผมไปไม่ทันส่งเธอขึ้นเครื่องบิน เสียงเธอเศร้าและสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ ผมจึงบอกเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นสาย.... และผมก็บอกไปว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา  ทุกวันทุกเวลา ทุกวินาที ช่วงเวลาที่อ้นมีความสุขที่สุดคือตอนที่ได้อยู่ใกล้ๆโบว์......

      .....เรารักเธอนะโบว์.....     

      เสียงเบรกรถและเสียงกระแทกกันอย่างแรง ดัง โครมมมมมมมมม!!!! ลอดผ่านโทรศัพท์ของผมออกมา  ผมตะโกนเรียกชื่อเธอ แต่ว่าผมกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆตอบกลับมา...................................

       

               ผมรีบขับรถไปที่สนามบิน  ก่อนจะถึงสนามบินอีกเพียงแค่ 10 กิโลเมตร  ภาพที่ติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้  รถพ่วงสิบล้อ ประสานงากับรถเบนซ์สีขาวที่ผมคุ้นตา แต่ว่าวันนี้มันกลายเป็นเพียงแค่เศษเหล็กไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์  ผู้คนมุงดูกันเต็มสองฟากถนนส่งเสียงคุยกันเสมือนหนึ่งนกกระจากก็ไม่ปาน ผมวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป   ตำรวจหลายนายวิ่งเข้ามากันผมไว้  ไม่ให้ผมเข้าใกล้รถของเธอ น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นสายอย่างที่ไม่เคยเป็น  พ่อของเธอเดินเข้ามาเเตะไหล่ผม  ท่านฝืนยิ้มแล้วพูดว่า....ก่อนสิ้นใจโบว์ฝากสิ่งนี้ไว้ให้ผม      

              ท่านยื่นตระกล้าหวายผูกโบว์สีชมพู  ซึ่งข้างในมีช็อกโกแลตรูปหัวใจ  และสมุดไดอารี่ของเธอให้ผม

      ....ผมเปิดสมุดบันทึกออกอ่าน
      สมุดบันทึกนั้นเริ่มบันทึกขึ้นจากวันแรกที่เราได้พบกัน
      อ่านไปชั่วขณะหนึ่งผมก็เริ่มร้องไห้

      เมื่อพบข้อความว่า
      เธอได้ตกหลุมรักผมในวันที่เธอถูกหักอก แต่เธอก็ขลาดเกินไป
      ที่จะบอกผมว่าเธอรู้สึกอย่างไร

      นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมวันนั้น.... เธอจึงนิ่งเงียบและคอยแต่จะเป็นผู้ฟัง
      จากบันทึกทำให้ผมรู้ว่า เธอพยายามจะบอกผมหลายครั้ง
      แต่เธอก็ไม่มีความกล้าหาญพอ.......

      เวลาที่เธอรู้สึกดีใจที่สุด
      จึงเป็นโอกาสที่เธอได้พบผม และวันนี้ก่อนที่เธอจะไป  เธอจะสารภาพความในใจของเธอออกมา
      ในที่สุดสมุดบันทึกก็จบลงด้วยข้อความว่า
      "แล้วก็มาถึงวันนี้ ...วันนี้แล้ว....ที่ฉันจะได้บอกรักเธอ ... "
      แต่มันกลับเป็นวันที่เธอต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
      ....และผมก็ได้แต่เฝ้าโทษตัวเองตลอดมา  ที่ไม่กล้าบอกรักเธอ
      .......




      ผิดพลาดติชมได้ที่

      http://my.dek-d.com/me-modsom13/


      http://me-modsom028.hi5.com

      หรือ

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×